ในรัชสมัยของ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ก่อนการเสียกรุงฯ ครั้งที่ 2 ราว 5 ปี “พระเจ้าอลองพญา” (กษัตริย์แห่งเมืองอังวะ) ได้ส่งกองทัพรี้พลจำนวน 2 หมื่นนายยกมายึดเมืองตะนาวศรีและเมืองมะริด ซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญของอโยธยาในแถบทะเลอันดามัน หลังจากที่ทราบข่าวของข้าศึก ทางอโยธยาจึงส่งกองทัพ 2 กองเข้าสกัดเพื่อปกป้องรักษาแผ่นดิน คือกองทัพของ เจ้าพระยายมราช และ กองทัพของเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ ขณะเดียวกัน “ขุนรองปลัดชู” กรมการเมืองวิเศษไชยชาญ ได้รวบรวมเหล่าอาสาอาทมาฏจำนวน 400 นายให้มาร่วมทัพด้วย หลังจากนั้นเมื่อเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ทราบข่าวว่า ทัพของเจ้าพระยายมราชแตกพ่ายโดยกองทัพของอังวะที่กำลังเดินทัพเข้ามา จึงมอบหมายให้ขุนรองปลัดชูนำกองกำลังอาทมาฏ 400 นายไปสกัดทัพของอังวะเอาไว้ที่เมืองกุยบุรี ไม่นานนักกองทัพของ “มังระราชบุตร” และ “มังฆ้องนรธา” ก็เคลื่อนผ่านช่องด่านสิงขร และได้ประจัญหน้ากับกองทัพของไทยขวางอยู่ที่เมืองกุยบุรีจึงเกิดการต่อสู้กับขึ้น ถึงแม้ทหารของฝ่ายไทยจะมีจำนวนน้อยกว่าข้าศึกหลายเท่าตัวก็ตาม และแม้จะรู้ว่าจุดจบจะเป็นเช่นไร หาก ขุนรองปลัดชูและนักรบผู้กล้าทั้ง 400 นายก็หาได้หวาดหวั่นแม้รู้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของพวกตนก็ตามที นี่คือ วีรกรรมอันกล้าหาญของบรรพชนที่ยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิตของตน เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้มีแผ่นดินอยู่อาศัย แม้วีรกรรมของพวกเขาอาจจะไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง หากคุณงามความดีของทุกคนจะยังคงอยู่ตลอดไปตราบนานเท่านาน...
หนังแนะนำสำหรับคุณ
หมวดหมู่หนัง
ปีที่หนังเข้าฉาย